http://www.komchadluek.net/detail/20150510/206007.html
วันนี้ได้อ่านบทความของ ดร. มุสลิมคนหนึ่ง ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ นสพ. คมชัดลึกถึงปัญหาโรฮิงญาไว้ยาวเหยียด แต่ประเด็นใจความสำคัญคือประโยคเหล่านี้
"
เมื่อเรายอมรับแล้วว่าคนเหล่านี้ ไม่ใช่คนหลบหนีเข้าเมืองธรรมดา แต่เป็นเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ และคนเหล่านี้คือเหยื่อ ผมคิดว่ารัฐบาลก็น่าจะมีที่พักพิงที่เหมาะสมให้ ในฐานะที่เขาคือเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่หากรัฐบาลไม่ทำที่พักพิงให้ ก็น่าจะอนุญาตให้องค์กรศาสนาเข้าไปดูแล"
ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ เสนอแนะว่า สถานที่ในมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา น่าจะเป็นที่พักพิงที่เพียงพอสำหรับชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศ ซึ่งหากรัฐบาลไทยอนุญาตให้ดำเนินการได้ องค์กรมุสลิมต่างๆ ก็ยินดีที่จะเข้ามาดูแลให้
"ถ้ารัฐบาลไม่ทำก็น่าจะอนุญาตให้เราทำ เมื่อครั้งที่แล้วเราเคยขอแต่ก็ไม่ได้ ขอว่าคนเหล่านี้มาอยู่ที่มัสยิดกลางดีไหม แล้วรัฐบาล ก็จัดเวรส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล มาเฝ้า เราก็จะได้ดูแลเรื่องอาหารที่ถูกหลักศาสนาให้แก่พี่น้องเหล่านี้ แต่ถ้ารัฐบาลจะทำเองก็ดี อย่างครั้งที่แล้วที่ อ.บางกล่ำ ที่ สภ.บางกล่ำ เขาก็มีการดูแลอย่างดี มีที่พัก
ดร.วิสุทธิ์ บอกด้วยว่า ในวันจันทร์นี้ตัวแทนของ องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย ที่ไอไอซีแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องปัญหาโรฮิงญาโดยเฉพาะ จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งทางการไทยน่าจะถือโอกาสนี้หารือกัน และหวังว่าจะได้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 3 ประเทศในเวลาอันใกล้
ขอถาม ดร. มุสลิมคนนี้ว่า ถ้าทางการไทยรับชาวโรฮิงยาไว้ จะให้อยู่ในประเทศในฐานะอะไร ไม่มีทางที่คนจำนวนมากๆหลายร้อย หรืออาจจะหลายพันมาอยู่รวมกันแต่ในมัสยิดได้ คนนะ ก็ต้องการอาหาร ใครจะเป็นผู้ดูแลออกค่าใช้จ่าย คนพวกนี้อยู่ยาก กินยาก อยู่ร่วมกับคนไทยเจ้าของประเทศไม่ได้ และถ้าทางการไทยให้อยู่ขึ้นมา จะได้สิทธิ์เป็นพลเมืองไทยหรือไม่
ดร. มุสลิมคนนี้มีหลักประกันอะไรว่า โรฮิงยาจะไม่หนี ขนาดคราวก่อนโดนจับอยู่ ยังแอบหนีไปหลายร้อยคนเลย
ถ้าทางการไทยรับไว้ รับรองว่า ชาวโรฮิงยาจากทั่วโลกนับล้านต้องหลั่งไหลมาอยู่เมืองไทยแน่นอน ก็แค่มาเดินๆอยู่ในป่าสัก 2 วันแล้วออกมามอบตัวกับ จนท.รัฐโดยอ้างสิทธิ์เป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแค่นี้ ก็ได้สิทธิ์การอยู่ในไทยอย่างถาวรแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น คนเป็นแสนเป็นล้านจะไปอยู่ไหน ก็คงส่งไปอยู่ตามมัสยิดทั่วประทศ ไปตั้งบ้านเรือนอยู่รอบๆ แล้วชาวไทยเจ้าของประเทศที่อยู่ตรงนั้นจะอยู่กันอย่างไรเมื่ออยู่ๆ มีใครไม่รู้มายึดที่ของตัวเองไป ต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้างถ้าไม่ยอม
แล้วเกิดคนพวกนี้ออกลูกมา จะได้สิทธฺิ์เป็นคนไทยหรือไม่
ขนาดประเทศอิสลามด้วยกันอย่าง อินโด มาเลเซียด้วยกันยังไม่รับไว้เลย แล้วทำไม ประเทศไทยแลนด์แดนสยามต้องมารับคนพวกนี้ไว้ด้วย หรือนี่คือแผนการกลืนกินประเทศให้เป็นรัฐอิสลามแบบ isisi
ไม่ทราบว่ามีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้าง
1. เห็นด้วยหรือไม่ ที่จะรับโรฮิงยาไว้ในไทยเป็นการถาวร
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ถามคนไทยเจ้าของประเทศเห็นด้วยหรือไม่"โรฮิงยานับล้านทั่วโลกเตรียมเฮดร.มุสลิมเตรียมเสนอให้ไทยรับโรฮิงญาไว้ทั้งหมด"
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะhttp://www.komchadluek.net/detail/20150510/206007.html
วันนี้ได้อ่านบทความของ ดร. มุสลิมคนหนึ่ง ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ นสพ. คมชัดลึกถึงปัญหาโรฮิงญาไว้ยาวเหยียด แต่ประเด็นใจความสำคัญคือประโยคเหล่านี้
" เมื่อเรายอมรับแล้วว่าคนเหล่านี้ ไม่ใช่คนหลบหนีเข้าเมืองธรรมดา แต่เป็นเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ และคนเหล่านี้คือเหยื่อ ผมคิดว่ารัฐบาลก็น่าจะมีที่พักพิงที่เหมาะสมให้ ในฐานะที่เขาคือเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่หากรัฐบาลไม่ทำที่พักพิงให้ ก็น่าจะอนุญาตให้องค์กรศาสนาเข้าไปดูแล"
ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีประจำภาคใต้ เสนอแนะว่า สถานที่ในมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา น่าจะเป็นที่พักพิงที่เพียงพอสำหรับชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศ ซึ่งหากรัฐบาลไทยอนุญาตให้ดำเนินการได้ องค์กรมุสลิมต่างๆ ก็ยินดีที่จะเข้ามาดูแลให้
"ถ้ารัฐบาลไม่ทำก็น่าจะอนุญาตให้เราทำ เมื่อครั้งที่แล้วเราเคยขอแต่ก็ไม่ได้ ขอว่าคนเหล่านี้มาอยู่ที่มัสยิดกลางดีไหม แล้วรัฐบาล ก็จัดเวรส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล มาเฝ้า เราก็จะได้ดูแลเรื่องอาหารที่ถูกหลักศาสนาให้แก่พี่น้องเหล่านี้ แต่ถ้ารัฐบาลจะทำเองก็ดี อย่างครั้งที่แล้วที่ อ.บางกล่ำ ที่ สภ.บางกล่ำ เขาก็มีการดูแลอย่างดี มีที่พัก
ดร.วิสุทธิ์ บอกด้วยว่า ในวันจันทร์นี้ตัวแทนของ องค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย ที่ไอไอซีแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องปัญหาโรฮิงญาโดยเฉพาะ จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งทางการไทยน่าจะถือโอกาสนี้หารือกัน และหวังว่าจะได้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 3 ประเทศในเวลาอันใกล้
ขอถาม ดร. มุสลิมคนนี้ว่า ถ้าทางการไทยรับชาวโรฮิงยาไว้ จะให้อยู่ในประเทศในฐานะอะไร ไม่มีทางที่คนจำนวนมากๆหลายร้อย หรืออาจจะหลายพันมาอยู่รวมกันแต่ในมัสยิดได้ คนนะ ก็ต้องการอาหาร ใครจะเป็นผู้ดูแลออกค่าใช้จ่าย คนพวกนี้อยู่ยาก กินยาก อยู่ร่วมกับคนไทยเจ้าของประเทศไม่ได้ และถ้าทางการไทยให้อยู่ขึ้นมา จะได้สิทธิ์เป็นพลเมืองไทยหรือไม่
ดร. มุสลิมคนนี้มีหลักประกันอะไรว่า โรฮิงยาจะไม่หนี ขนาดคราวก่อนโดนจับอยู่ ยังแอบหนีไปหลายร้อยคนเลย
ถ้าทางการไทยรับไว้ รับรองว่า ชาวโรฮิงยาจากทั่วโลกนับล้านต้องหลั่งไหลมาอยู่เมืองไทยแน่นอน ก็แค่มาเดินๆอยู่ในป่าสัก 2 วันแล้วออกมามอบตัวกับ จนท.รัฐโดยอ้างสิทธิ์เป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแค่นี้ ก็ได้สิทธิ์การอยู่ในไทยอย่างถาวรแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้น คนเป็นแสนเป็นล้านจะไปอยู่ไหน ก็คงส่งไปอยู่ตามมัสยิดทั่วประทศ ไปตั้งบ้านเรือนอยู่รอบๆ แล้วชาวไทยเจ้าของประเทศที่อยู่ตรงนั้นจะอยู่กันอย่างไรเมื่ออยู่ๆ มีใครไม่รู้มายึดที่ของตัวเองไป ต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้างถ้าไม่ยอม
แล้วเกิดคนพวกนี้ออกลูกมา จะได้สิทธฺิ์เป็นคนไทยหรือไม่
ขนาดประเทศอิสลามด้วยกันอย่าง อินโด มาเลเซียด้วยกันยังไม่รับไว้เลย แล้วทำไม ประเทศไทยแลนด์แดนสยามต้องมารับคนพวกนี้ไว้ด้วย หรือนี่คือแผนการกลืนกินประเทศให้เป็นรัฐอิสลามแบบ isisi
ไม่ทราบว่ามีความเห็นกันว่าอย่างไรบ้าง